×
ค้นหา
EveryThaiStudent.com
ค้นหาเรื่องพระเจ้าและคำถามในชีวิต
รู้จักพระเจ้า

รู้จักกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว

WhatsApp Share Facebook Share Twitter Share Share by Email More PDF
 ฉัน/ผม เพิ่งได้ต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิต(มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ดังต่อไปนี้)…
 ฉัน/ผม อาจจะอยากต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิต แต่ฉัน/ผมมีคำถามที่ต้องการคำตอบ ก่อน…

การถอดเสียงวิดีโอ

แล้วเราต้องทำอะไรบ้างในการเริ่มต้นความสัมพันธ์กับพระเจ้า?
คุณต้องรอให้ฟ้าผ่าลงมาหรือเปล่า? คุณจะต้องอุทิศตัวของคุณให้กับงานด้านศาสนาหรือไม่? คุณต้องทำตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อที่พระเจ้าจะทรงยอมรับคุณงั้นหรือ? มันไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น พระเจ้าได้ทรงบอกเอาไว้อย่างชัดเจนในพระคัมภีร์ว่า เราจะรู้จักพระองค์ได้อย่างไร ต่อไปนี้จะอธิบายว่าคุณจะเริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นการส่วนตัวได้อย่างไร

ประการที่หนึ่ง : พระเจ้าทรงรักคุณ และทรงมีแผนการที่ยอดเยี่ยมสำหรับชีวิตของคุณ

พระเจ้าทรงสร้างคุณมา แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น พระองค์ทรงรักคุณมาก และพระองค์ทรงอยากให้คุณรู้จักกับพระองค์ในตอนนี้ และใช้เวลาแห่งนิรันดร์กาลกับพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้น จะไม่พินาศแต่ มีชีวิตนิรันดร์” พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อที่เราแต่ละคนจะสามารถรู้จัก และเข้าใจพระเจ้าแบบเป็นการส่วนตัว พระเยซูเท่านั้นที่ทรงสามารถนำมาซึ่งความหมายและเป้าหมายในชีวิตได้

แล้วอุปสรรคที่ขัดขวางเราในการรู้จักกับพระเจ้า คืออะไรล่ะ?…

ประการที่สอง : เราทุกคนทำบาปและความบาปนั้นแยกเราให้ขาดจากพระเจ้า

การถูกแยกขาดนั้น ทำให้เราอยู่ห่างไกลจากพระเจ้า เหตุเพราะความบาปของเรา พระคัมภีร์ได้บอกกับเราว่า “เราทุกคนได้หลงเจิ่นไปเหมือนแกะ เราทุกคนต่างได้หันไปตามทางของตนเอง” ท่าทีภายในของเราลึก ๆ ลงไปแล้ว อาจจะเป็นการปฏิเสธที่จะเชื่อฟัง หรือเฉยเมยต่อพระเจ้าและหนทางของพระองค์อยู่ก็ได้ ท่าทีหรือการกระทำอย่างนี้แหละที่พระคัมภีร์เรียกว่า “ความบาป” ผลของความบาปในชีวิตของเราก็คือความตาย เป็นความตายฝ่ายจิตวิญญาณเพราะการถูกตัดขาดจากพระเจ้า แม้ว่าเราอาจพยายามที่จะเข้าใกล้พระเจ้าให้มากขึ้น ด้วยกำลังเรี่ยวแรงของเราเอง แต่เราก็ยังล้มเหลวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แผนภาพนี้แสดงให้เห็นช่องว่างกว้างใหญ่ที่ขวางกั้นอยู่ระหว่างเรากับพระเจ้า ลูกศรเหล่านี้แสดงถึง

วิธีการ ต่าง ๆ ที่เราอาจจะพยายามที่จะไปให้ถึงพระเจ้า โดยอาศัยกำลังเรี่ยวแรงของเราเอง

ด้วยการทำสิ่งที่ดี ๆ ในชีวิต หรือพยายามทำให้ได้รับการยอมรับจากพระเจ้า โดยการมีชีวิตที่ดีมีศีลธรรม หรือยึดถือหลักปรัชญาต่าง ๆ แต่ความพยายามที่ดีทั้งหลายของเรานั้น ไม่เพียงพอที่จะปกปิดความบาปของเราได้

แล้วเราจะเชื่อมช่องว่างที่กว้างใหญ่นี้ได้อย่างไรล่ะ?…

ประการที่สาม : พระเยซูทรงเป็นหนทางเดียวเท่านั้น ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้เพื่อความบาปของเรา โดยผ่านทางพระเยซูคริสต์ เราสามารถที่จะรู้จักกับพระเจ้าและมีประสบการณ์กับความรักและแผนการของพระองค์สำหรับชีวิตของเราได้

เราสมควรที่จะจ่ายชดใช้ในเรื่องความบาปของเราเอง แต่ปัญหาก็คือ ค่าชดใช้นั้นคือความตาย ดังนั้น ด้วยความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา พระเยซูคริสต์จึงได้ทรงสิ้นพระชนม์แทนเราเพื่อที่เราจะไม่ต้องประสบกับความตายแบบที่ถูกตัดขาดจากพระเจ้า

บนไม้กางเขนนั้นพระเยซูทรงรับเอาความบาปทั้งหลายของเราไว้ที่พระองค์ และทรงทำให้เสร็จสมบูรณ์โดยการจ่ายแทนทั้งหมด ด้วยว่าพระคริสต์ก็ได้สิ้นพระชนม์ครั้งเดียวเท่านั้นเพราะความผิดบาป คือพระองค์ผู้ชอบธรรมเพื่อผู้ไม่ชอบธรรม เพื่อจะได้ทรงนำเราทั้งหลายไปถึงพระเจ้า และพระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอดมิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่เพราะพระองค์ทรงพระกรุณา.. เหตุเพราะการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระเยซู ความบาปของเรา จึงไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้เราถูกตัดขาดจากพระเจ้าอีกต่อไป

เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้น จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์พระเยซูไม่เพียงแค่ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อความบาปของเราเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงฟื้นคืนพระชนม์อีกด้วย สิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ ได้พิสูจน์ข้อกังขาทั้งหลายว่า พระองค์ทรงมีสิทธิอย่างสมบูรณ์ในคำสัญญาที่จะทรงโปรดประทานชีวิตนิรันดร์ ในคำกล่าวที่ว่าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า และทรงเป็นหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะนำเราให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพระองค์จึงได้ตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้ นอกจากจะมาทางเรา”

พระองค์ทรงบอกกับเราว่า เราสามารถที่จะเริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับพระองค์ได้เดี๋ยวนี้ แทนที่จะพยายามมากขึ้นที่จะเข้าถึงพระเจ้าด้วยตัวของเราเอง พระเยซูตรัสว่า “...ถ้าผู้ใดกระหาย ผู้นั้นจงมาหาเราและดื่ม ผู้ที่วางใจในเรา... ‘แม่น้ำที่มีน้ำธำรงชีวิต จะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น’ เป็นเพราะความรักของพระเยซูที่ทรงมีต่อเรา ทำให้พระองค์ทรงยอมทนทุกข์บนไม้กางเขนนั้น และในตอนนี้พระองค์ก็ได้ทรงเชื้อเชิญเราให้เข้ามาหาพระองค์ เพื่อที่เราจะได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ส่วนตัวของเรากับพระเจ้าได้

ประการที่สี่ : เราต้องยอมรับพระเยซูคริสต์ให้เข้ามาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

พระคัมภีร์กล่าวว่า “แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็ทรงประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระเจ้า” เมื่อเราต้อนรับองค์พระเยซูคริสต์ด้วยความเชื่อ พระคัมภีร์กล่าวว่า “ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้น ก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้ เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้” การยอมรับพระเยซู คือการเชื่อว่าพระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงกล่าวไว้เช่นนั้น และหลังจากนั้นให้คุณเชื้อเชิญพระองค์ที่จะทรงนำพาและชี้ทางให้แก่ชีวิตของคุณ  พระเยซูตรัสว่า “เรามาเพื่อท่านทั้งหลายจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์”

และนี่คือคำเชิญชวนของพระเยซู พระองค์ตรัสว่า “นี่แน่ะ เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเรา และเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้น”

เมื่อคุณได้ฟังเรื่องนี้แล้ว คุณจะตอบสนองต่อการเชื้อเชิญของพระเจ้า อย่างไร?

คุณสามารถที่จะต้อนรับพระเยซูได้เดี๋ยวนี้ เราจะบอกว่าคุณควรทำอย่างไร และแน่นนอนมันคือการอธิษฐานนั้นเอง

คำพูดที่คุณใช้ในการมอบชีวิตของคุณกับพระเจ้านั้นไม่สำคัญ พระองค์ทรงทราบความปรารถนาภายในใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ค่อยแน่ใจว่าจะอธิษฐานอย่างไร คำอธิษฐานนี้อาจจะช่วยให้คุณสามารถพูดเป็นคำพูดของคุณเองได้

คำอธิษฐานมีดังนี้ว่า
“พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้าต้องการรู้จักพระองค์ ข้าพเจ้าอยากให้พระองค์เข้ามาในชีวิตของข้าพเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อบาปของข้าพเจ้า เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้รับการยอมรับอย่างสมบูรณ์จากพระองค์ พระองค์เท่านั้นที่ทรงสามารถประทานพลังเพื่อการเปลี่ยนแปลงและทำให้ข้าพเจ้ากลายเป็นบุคคลแบบที่พระองค์ทรงสร้างให้ข้าพเจ้าเป็น ขอบคุณพระองค์ที่ทรงอภัยโทษบาปของข้าพเจ้า และให้ข้าพเจ้ามีชีวิตนิรันดร์กับพระเจ้า ข้าพเจ้ามอบชีวิตของข้าพเจ้าแด่พระองค์ ขอทรงนำชีวิตของข้าพเจ้าตามที่พระองค์ทรงมีพระประสงค์ อาเมน”

ถ้าหากคุณได้ทูลเชิญพระเยซูให้เข้ามาในชีวิตของคุณเมื่อสักครู่แล้วละก็ พระองค์ก็ได้เสด็จเข้ามาในชีวิตของคุณแล้ว ตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ คุณได้เริ่มต้นการมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าแล้ว

สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ก็คือ การเดินทางของชีวิตที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและการเติบโตเมื่อคุณรู้จักกับพระเจ้ามากขึ้นผ่านทางการอ่านพระคัมภีร์ การอธิษฐาน และการพบปะพูดคุยกับคริสตเตียนคนอื่น ๆ

 ฉัน/ผม เพิ่งได้ต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิต(มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ดังต่อไปนี้)…
 ฉัน/ผม อาจจะอยากต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิต แต่ฉัน/ผมมีคำถามที่ต้องการคำตอบ ก่อน…

แชร์ต่อกับคนอื่น:
WhatsApp Share Facebook Share Twitter Share Share by Email More